ทายาทส่งมอบเอกสารส่วนบุคคลของอาจารย์พิศิษฐ เบญจมงคลวารี ครูหมอนวดไทย

ทายาทส่งมอบเอกสารส่วนบุคคลของอาจารย์พิศิษฐ เบญจมงคลวารี ครูหมอนวดไทย

การส่งมอบเอกสารส่วนบุคคลของอาจารย์พิศิษฐ เบญจมงคลวารี ครูหมอนวดไทยรุ่นบุกเบิกฟื้นฟูการนวดไทยตั้งแต่ยุคงานสาธารณสุขมูลฐาน

อาจารย์พิศิษฐ เบญจมงคลวารีเป็นผู้ริเริ่มบุกเบิกการเรียนการสอนการนวดไทยให้กับผู้พิการทางสายตา และเป็นครูหมอนวดสร้างลูกศิษย์หรือหมอนวดตาบอดคนแรกของสังคมไทย ท่านเป็นหมอนวดไทยที่มีคุณสมบัติแสดงให้เห็นจิตวิญญาณความเป็นหมอดั้งเดิม จนเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2555 ที่ผ่านมา แวดวงการแพทย์แผนไทยได้สูญเสียท่านไปอย่างน่าเสียดาย แต่ท่านยังอยู่ในความทรงจำของผู้คนที่รู้จักท่าน ไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์หลายรุ่นหลายกลุ่มจำนวนมาก คนป่วยที่ท่านเคยช่วยเหลือ เพื่อนหมอนวดไทยในโครงการฟื้นฟูการนวดไทย บุคลากรการแพทย์การสาธารณสุข รวมไปถึงบุคลากรด้านการศึกษา และการพัฒนาสังคม (ดาวน์โหลด)

 

นับแต่ยุคเรื่มต้นขยายแนวคิดและส่งเสริมสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากการแพทย์พื้นบ้านผสมผสานในระบบบริการสาธารณสุข ในปี 2528 มีการก่อตั้งโครงการฟื้นฟูการนวดไทย เพื่อลดปัญหาการใช้ยาที่ไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้นรุนแรงในชุมชนขณะนั้น ที่มาจากการร่วมมือกันของกลุ่มเครือข่ายนักวิชาการด้านเภสัชศาสตร์ แพทย์ องค์กรพัฒนาเอกชนและกลุ่มคนทำงานพัฒนาในชนบท  นพ.กรุงไกร เจนพานิชย์แนะนำให้ไปพบแสดงความคารวะหมอนวดไทยอาวุโสตามสมาคมแพทย์แผนโบราณต่าง ๆ  ที่ขณะนั้นตั้งอยู่ตามวัดเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ วัดปรินายก วัดโพธิ์ วัดมหาธาตุ วัดสามพระยา ในกรุงเทพฯ และวัดหนองหญ้านาง จ.อุทัยธานี รวมทั้งโรงเรียนอายุรเวทวิทยาลัย ซึ่งก็ทำให้ได้พบอาจารย์พิศิษฐเป็นอาจารย์ใหญ่ที่สมาคมเภสัชและอายุรเวชโบราณแห่งประเทศไทย ที่วัดสามพระยา และเป็นจุดเริ่มต้นในการนำเสนอองค์ความรู้ของหมอนวดไทยแต่ละสำนัก ในการจัดสัมมนาฟื้นฟูการนวดไทย วัีนที่ 15 พฤศจิกายน 2528 ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์การฟื้นฟูการนวดไทยครั้งแรก ในระยะต่อมาอาจารย์พิศิษฐเข้ามามีบทบาทเป็นวิทยากรให้กับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานต่าง ๆ  ปี 2542 ได้เข้ามาเป็นกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย และมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในด้านการพัฒนาหลักสูตร จัดทำตำรา กฎหมายและเกณฑ์มาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

การสูญเสียครูหมอนวดไทยรุ่นเก่าไปอีกคน โดยเฉพาะอาจารย์พิศิษฐ เบญจมงคลวารี ครั้งนี้ นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน อดีตอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกคนแรก จึงเขียนคำอาลัยแด่อาจารย์ลงหนังสือพิมพ์ด้วย (ดาวน์โหลด)

อาจารย์เคยเล่าให้ฟังตั้งแต่ปี 2532 ว่ามีความตั้งใจพัฒนาองค์ความรู้การนวดไทยให้เกิดประโยชน์แพร่หลาย อาจารย์พิศิษฐ จึงวางแผนสร้างโรงเรียนพิศิษฐเวชกรรมแผนไทยด้วยทุนสะสมของตนเอง สำเร็จเมื่อ ปี พ.ศ.2543  ตั้งอยู่ที่ีซอยวัดภาษี 1 เอกมัย เมื่อมีโรงเรียนแล้ว อาจารย์ก็จัดหาวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนและตำราให้พร้อม เพื่อให้ลูกศิษย์ที่มีความสนใจการเรียนนวดมีสถานที่เรียนและฝึกฝนปฏิบัติ เป็นเหมือนสำนักเรียนสมัยโบราณในตึกแถวอาคารใหม่กลางเมือง ให้ศิษย์และครูได้เรียนและแลกเปลี่ยนความรู้กัน มีการจัดงานไหว้ครูทุกปีอย่างอุ่น  นอกจากนั้นอาจารย์พิศิษฐยังมีลูกศิษย์ชาวต่างประเทศอีกมากที่เขียนจดหมายมาถึงด้วยความเคารพนับถือ

หลังการจากไปของอาจารย์พิศิษฐ เบญจมงคลวารีอย่างกระทันหัน ทีมงานหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์สุขภาพไทยได้ติดต่อไปที่โครงการฟื้นฟูการนวดไทย มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา (มสพ.) เพื่อค้นหารวบรวมประวัติของท่านไว้ ซึ่งก็มีน้อย จนได้ทราบว่า ท่านมีทายาท คือบุตรสาวที่เพิ่งกลับจากแคนาดา กำลังจัดเก็บข้าวของใช้ของคุณพ่อ (อาจารย์พิศิษฐ เบญจมงคลวารี)  จึงได้ติดต่อประสานไปหาคุณกบ (นางสาวภัตรวัต เบญจมงคลวารี) และในฐานะที่ผู้ประสานงานรู้จักคุ้นเคยและเคยร่วมงานกับอาจารย์พิศิษฐ เบญจมงคลวารี มานานกว่า 20 ปีแล้ว จึงได้พูดคุยเล่าถึงบทบาทและคุณค่าของงานและสิ่งที่อาจารย์พิศิษฐสร้างไว้อย่างมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของเยาวชนคนรุ่นหลัง มีความหมายทางประวัติศาสตร์สุขภาพอย่างที่จะต้องอนุรักษ์ รวบรวมและจัดระบบให้มีการศึกษาค้นคว้าต่อไป  คุณภัตรวัตเห็นด้วยกับแนวทางของหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์สุขภาพไทย จึงคัดเลือกเอกสาร บันทึกลายมือ อุปกรณ์ เครื่องมือการทำงานการแพทย์แผนไทย และส่งมอบให้หอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์สุขภาพไทย ซึ่งได้จัดทำทะเบียนรับมอบเอกสารส่วนบุคคลไว้แล้ว (ดาวน์โหลด)

คุณภัตรวัตได้เขียนเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตในแง่มุมชีวิตและความเป็นหมอแผนไทยของคุณพ่อพิศิษฐจากความทรงจำและความรู้สึกที่ประทับอยู่ในจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณพ่อสอนคุณภัตรวัตให้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตให้เห็นและทำเป็นตัวอย่างให้รับรู้สึกได้ด้วย (ดาวน์โหลด)

นอกจากนั้นท่านมีบุตรชายชื่อ นายชาญยุทธ เบญจมงคลวารี ผู้สืบทอดและยังทำหน้าที่เป็นหมอนวดไทยในปัจจุบัน

ในการไปรับมอบเอกสารและวัตถุจดหมายเหตุครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 นั้น คุณภัตรวัต ได้กล่าวแสดงเจตนาถึงการมอบเอกสารและวัตถุข้าวของใช้ของคุณพ่ออย่างชัดเจน ด้วยความเข้าใจในงานจดหมายเหตุและงานประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าความหมายต่อสังคมไทยระยะยาวอย่างในบางประเทศ  คุณภัตรวัตได้กล่าวถึงเจตนาและความประสงค์ให้ทีมงานรับทราบ พร้อมการเขียนเงื่อนไขการมอบเอกสารส่วนบุคคลและวัตถุจดหมายเหตุการแพทย์แผนไทยนี้เพื่อเป็นประโยชน์สาธารณะเท่านั้น (ดาวน์โหลด)
ก่อนที่คุณภัตรวัต จะกลับประเทศแคนาดา และได้จัดการสิ่งต่างๆ ตามแนวทางที่คุณพ่อทำไว้ ที่มุ่งเน้นการให้ประโยชน์แก่สาธารณะมาตลอดชีวิตของคุุณพ่อ จึงยังมีเจตนาการบริจาคทรัพย์บางส่วนและสินทรัพย์ที่อาจารย์พิศิษฐ สร้างไว้ให้แก่หอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์สุขภาพไทย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยและเผยแพร่แก่สาธารณชนเท่านั้น