สธ.แถลงข่าวเปิดตัว 100ปี การสาธารณสุขไทย

สธ.แถลงข่าวเปิดตัว 100ปี การสาธารณสุขไทย

กระทรวงสาธารณสุข จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว 100 ปี การสาธารณสุขไทย   เพื่อประชาชนสุขภาพดี 100 ปี แห่งการพัฒนา
 

 กระทรวงสาธารณสุขจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว

100ปี การสาธารณสุขไทย"  เพื่อประชาชนสุขภาพดี 100 ปี แห่งการพัฒนา

 

 

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเปิดตัวงาน 100ปี การสาธารณสุขไทย (พ.ศ.2461-2561) เพื่อประชาชนสุขภาพดี 100 ปี แห่งการพัฒนา ในโอกาสครบรอบ 100 ปี การสาธารณสุขไทย ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ที่จะถึงนี้ และเปิดตัวต้นไม้ประจำองค์กร คือ ต้นการบูร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานต้นการบูรให้เป็นต้นไม้ประจำกระทรวงสาธารณสุข โดยในอดีตที่ผ่านมาต้นการบูรยังไม่เคยถูกใช้เป็นสัญลักษณ์หรือตราประจำองค์กรใดมาก่อน นอกจากนี้ได้มีการรณรงค์ให้ปลูกต้นการบูรในทั่วทุกพื้นที่ของหน่วยงานภายในกระทรวงและในเขตสังกัด โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องปลูกให้ได้ 1 ล้านต้นทั่วประเทศ

   

ในงานแถลงข่าว นพ.ปิยะสกล ได้กล่าวถึงการขับเคลื่อนการปฏิรูปการสาธารณสุขให้เป็นระบบ 4.0 โดยเปลี่ยนจากเชิงรับเป็นเชิงรุก เน้นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยเฉพาะการแพทย์ปฐมภูมิ ที่จะมีคลินิคหมอครอบครัว ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัวและทีมบุคลาการมาช่วยดูแลสุขภาพประชาชนในระดับตำบล นอกจากนี้ได้ตั้งคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ เพื่อดำเนินการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสุขภาพในแต่ละพื้นที่ โดยเข้าไปมีส่วนร่วมและเป็นหุ้นส่วนของทุกภาคส่วน

ต่อมานพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงการพัฒนาระบบบริการ  โดยให้มีการพัฒนาทุกเขตสุขภาพให้ได้ 19 สาขา และเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศในการรักษาโรคที่สำคัญ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง อุบัติเหตุ เป็นต้น โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและราชวิทยาลัย นอกจากนี้ได้มีการพัฒนาความเป็นเลิศด้านวิชาการ บุคลากร และการบริการ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการบริการที่มีคุณภาพภายในเขตสุขภาพ ลดความแออัดและความเหลื่อมล้ำ มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในแต่ละเขตพื้นที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะการผ่าตัดวันเดียวแล้วสามารถกลับไปนอนพักที่บ้านต่อได้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีประสิทธิภาพในการรักษาอย่างดีเยี่ยม ลดการนอนโรงพยาบาล และลดปัญหาความแออัด

นพ.เสรี ตู้จินดา ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข กล่าวถึงการปฏิรูปสาธารณสุข 4 ด้าน ได้แก่ บริหารจัดการ รักษาพยาบาล การเงินการคลัง และ คุ้มครองผู้บริโภค โดยแยกออกเป็น 12 ประเด็น โดย 6 ประเด็นแรกจะมีการขับเคลื่อนก่อนในเบื้องต้น ได้แก่ 1. ระบบสุขภาพเป็นเอกภาพ 2. การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น 3. ระบบการแพทย์ปฐมภูมิ 4. การให้ความรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชน 5. ระบบการคลังหลักประกันสุขภาพ 6. ระบบสารสนเทศ

ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ต้นการบูร เป็นไม้ทรงพุ่มกว้างและทึบ มีความสูงของต้น 30 เมตร ลำต้นมีขนาดถึง 1.5 เมตร เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลลำต้น กิ่งเรียบไม่มีขน เนื้อไม้  สีน้ำตาลปนแดง มีสรรพคุณยา โดยพบว่าทุกส่วนของการบูรมีกลิ่นหอม โดยเฉพาะราก โคนต้น มีกลิ่นหอมมากกว่าส่วนอื่น  ในฤดูร้อน ใบ และเปลือกของต้นการบูรจะกลั่นน้ำมันออกมา ทำให้สดชื่น  ในผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยหลายชนิดมีการบูรเป็นส่วนผสม เนื่องจากให้กลิ่นหอมสดชื่น  หอมเย็น  ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสบายใจ  ซึ่งปัจจุบันที่มีการใช้เป็นการบูรสังเคราะห์ เพราะหากเป็นการบูรแท้จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 30,000 บาท

นอกจากนี้ยังพบว่า การบูรมีการใช้ในตำรับยาแผนไทยของชาติ  จากหลักฐานของศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) กว่า 100 ตำรับ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ และตำรับยาแผนไทยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 1) ตำราสรรพคุณยาไทยมีระบุว่า หากเป็นส่วนประกอบของยาใช้ภายใน  การบูรมีสรรพคุณบำรุงธาตุ ขับลม  ขับเสมหะ แก้ธาตุพิการ แน่นจุกเสียด ปวดท้อง ขับลมในลำไส้ กระจายลมทั้งปวง หากเป็นส่วนประกอบยาใช้ภายนอก การบูรมีสรรพคุณแก้คัน แก้ปวดตามเส้น แก้เคล็ดขัดยอก บวม แก้ปวดข้อ แก้พิษแมลงกัดต่อย กระตุ้นหัวใจ แก้อาการหน้ามืด เป็นต้น

             โดยบรรยากาศภายในงาน มีการจัดนิทรรศเพื่อการให้ความรู้ และจัดแสดงสิ่งของที่เกี่ยวเนื่องในวาระครบรอบ “100ปี การสาธารณสุขไทย” เช่น เครื่องคิดเลขโบราณ เครื่องบดยาโบราณ หนังสือ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2477 เป็นต้น นอกจากนี้ได้มีการแจกโปสการ์ด เสื้อ และของที่ระลึกแก่สื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมงาน


ที่มา : คม ชัด ลึก

 

 

กดติดตามข่าว กิจกรรม และความเคลื่อนไหวได้ที่